ผู้จัดการทีมคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายถึงอนาคตของศูนย์หน้าปีศาจแดงในช่วงปลายสัปดาห์หน้านี้
เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเริ่มต้นชีวิตในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า และช่วงนี้เขาก็คงอยากที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสื่อทั้งหลาย เนื่องจากอนาคตในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ของศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษยังคงไม่มีความชัดเจน
นอกจากคำถามเกี่ยวกับความท้าทายในการมารับตำแหน่งต่อจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แล้ว คำถามเกี่ยวกับ เวย์น รูนี่ย์ ก็น่าจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สื่อจะให้ความสนใจเป็นอย่างมากในการแถลงข่าวครั้งแรกของเขา นี่คือประเด็นใหญ่ซึ่งต้องการข้อสรุปอย่างรวดเร็วที่สุด
มอยส์คงไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในการแถลงข่าวครั้งแรกของเขาในฐานะกุนซือทีมปีศาจแดง ดังนั้นเขาจึงต้องทำให้ปัญหาของรูนี่ย์นั้นมีความชัดเจนขึ้นมา นี่คือความท้าทายครั้งใหญ่ที่จะเป็นบทพิสูจน์ตัวเขาเองในฐานะผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ตอนนี้คำถามเหล่านั้นถูกทิ้งไปก่อน เนื่องจากว่าเขากำลังอยู่ในช่วงพักร้อนผ่อนคลายก่อนที่จะเข้ามารับงานที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา
ย้อนกลับไปในปี 2004 เดวิด มอยส์รอดพ้นความโกรธเคืองจากแฟนบอลเอฟเวอร์ตันไปได้ หลังจากที่ขายนักเตะที่ปั้นขึ้นมาจนโด่งดังของทีมไปให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับกลายเป็นว่า บิลล์ เคนไรท์ ประธานสโมสรคนใหม่ของทีมที่ทำให้แฟนๆ ต้องเซ็ง หลังจากที่รูนี่ย์สร้างชื่อด้วยการติดทีมชาติอังกฤษไปลุยศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เขาก็ได้ออกมายืนยันว่าดาวยิงรายนี้จะไม่ย้ายออกไปจากถิ่นกูดิสัน พาร์ค อย่างแน่นอน
เคนไรท์ยังบอกด้วยว่ามอยส์จะเป็นคนตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามแฟนๆ เอฟเวอร์ตันก็ยังเชื่ออยู่ดีว่าบอสใหญ่ของถิ่นกูดิสันคือผู้บงการเรื่องราวทั้งหมด
9 ปีต่อมา ปฏิกิริยาของแฟนที่ตอบสนองต่อรูนี่ย์ก็แตกต่างกันออกไป อันที่จริงการขายรูนี่ย์ออกไปในปี 2013 นี้อาจจะทำให้แฟนปีศาจแดงบางคนพอใจด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เมื่อย้อนกลับไป 2 ปีที่แล้ว นี่อาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ดาวยิงวัย 27 ปีต้องครุ่นคิดอย่างหนัก หากว่าเขาเปลี่ยนความคิดอยากค้าแข้งต่อในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด
มันเป็นเวลานานพอสมควรที่เสื้อของรูนี่ย์นั้นติดอันดับขายดีที่สุดในเมก้าสโตร์ของโอลด์ แทรฟฟอร์ด ตัวอักษร 6 ตัวในชื่อของเขาถูกติดที่ด้านหลังของเสื้อแข่งมากที่สุด แต่ว่าตอนนี้มันไม่ได้เป็นแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว แฟนๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มรู้สึกเฉยๆ กับฮีโร่ของพวกเขานับตั้งแต่ที่เขาออกมาแสดงความต้องการย้ายทีมในปี 2010 แน่นอน หลังจากนั้นเขาก็พลิกคำพูด พร้อมกับออกมายอมรับว่าเขาคิดผิด จากนั้นก็ต่อสัญญากับสโมสรต่อไปอีก 5 ปี
เขาอ้อนวอนแฟนๆ ปีศาจแดงให้อภัยในตัวเขาด้วยการโชว์ฟอร์มถล่มประตู รวมถึงลูกโอเวอร์เฮดคิกสุดสวยในเกมดาร์บี้เจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลูกนั้นด้วย นี่คือการสมานรอยร้าวในใจของเขา แต่ความรู้สึกลึกๆ ของแฟนบอลก็ไม่ได้รักเขาอย่างสนิทใจเหมือนเดิม มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำอย่างนั้นได้
และมันก็มาถึงจุดแตกหักกันอีกครั้งในช่วงท้ายฤดูกาลล่าสุด ด้วยข่าวที่ว่ารูนี่ย์ได้บอกถึงความต้องการย้ายทีมอีกครั้งกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หลังจากที่เขาต้องรับบทพระรองมาตลอดนับตั้งแต่ทีมได้ตัว โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เข้ามา ซึ่งเรื่องนี้เซอร์ อเล็กซ์ ก็ได้ออกมายืนยันด้วยตัวเองผ่านทางโทรทัศน์ในเกมสุดท้ายของเขาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ที่พบกับสวอนซี ซิตี้ เขาบอกว่ารูนี่ย์ได้ร้องขอย้ายทีมจริง
มันไม่มีการยืนยันอะไรอย่างเป็นทางการถึงคำพูดนั้นจากตัวเขา และก็กลายเป็นตอนนี้มีข่าวมาว่าเขาต้องการอยู่กับทีมต่อไปแทน แหล่งข่าวยังอ้างอีกด้วยว่ารูนี่ย์รู้สึกเหมือนถูกเซอร์ อเล็กซ์ หักหลังออกอากาศด้วยคำพูดเหล่านั้น และก็ต้องการคำขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนี้
มันยากที่จะจินตนาการว่าอดีตกุนซือปีศาจแดงจะออกมากล่าวคำขอโทษเขาได้อย่างไร แต่รูนี่ย์ก็อาจจะถือโอกาสที่มอยส์จะเข้ามาคุมทีมเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปเลยก็เป็นได้
ลู มาคาริ อดีตศูนย์หน้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บอกว่า “เวย์นนั้นไม่ค่อยมีความสุขนิดหน่อยเพราะว่าเวลาลงสนามของเขาเมื่อฤดูกาลที่แล้วถือว่าน้อยเกินไป แต่ผมก็ได้ไปดูเกมเกือบทุกนัด และก็พูดไม่ได้เต็มปากว่าที่ผู้จัดการทีมตัดสินใจจับเขานั่งสำรองนั้นเป็นความคิดที่ผิด”
“คุณจำเป็นจะต้องต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อแย่งตำแหน่งกลับคืนมา และเราทุกคนก็รู้ว่ารูนี่ย์นั้นยอดเยี่ยมแค่ไหน สถิติการพังประตูในพรีเมียร์ ลีก ของเขานั้นบ่งบอกทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว”
“ผมคิดว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการให้เขาฟิตเต็มร้อย และจะพึงพอใจหากว่า เวย์น รูนี่ย์ มีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ แต่คำถามก็คือหากเขาสมบูรณ์เต็มที่แล้วเขาจะสามารถกลับไปคืนฟอร์มสมัยย้ายเข้ามายังสโมสรใหม่ๆ ได้หรือเปล่า?”
“ผมว่าตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ เดวิด มอยส์ แล้ว ผมเชื่อว่าเขาคงไม่เก็บรูนี่ย์ไว้ หากว่าเจ้าตัวไม่มีความตั้งใจที่จะกลับไปคืนฟอร์มเช่นนั้นแล้ว”
“มอยส์เป็นผู้จัดการทีมที่มากด้วยประสบการณ์ เขารู้ดีว่านักเตะควรจะพุ่งสมาธิไปยังหน้าที่ของพวกเขา และมีความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม หากว่าคุณไม่ได้มีจิตใจอยู่กับร่องกับรอยแล้วล่ะก็ คุณไม่ควรจะอยู่ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกต่อไป”
ตอนนี้อาร์เซนอลกำลังจับตามองสถานการณ์ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด อยู่ เชื่อกันว่าพวกเขาพร้อมทุ่มเงิน 20 ล้านปอนด์เป็นค่าตัวกองหน้ารายนี้ ทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และมอยส์จะต้องมาพิจารณากันว่าเงินจำนวน 20 ล้านปอนด์นั้นถือว่าคุ้มค่าพอหรือไม่สำหรับนักเตะที่อายุจะถึง 28 ปีในเดือนตุลาคม และค่าตัวของเขาก็จะลดลงเรื่อยๆ เมื่อยิ่งใกล้ถึงวันหมดสัญญาของเขาในปี 2015
อีกปัจจัยหลักสำหรับมอยส์ก็คือตอนนี้แฟนๆ จะยอมรับในตัวรูนี่ย์ได้เหมือนเดิมหรือเปล่า ทุกคนพร้อมที่จะให้อภัยเขาอีกครั้งหรือไม่ ความอดทนของพวกเขาเหล่านั้นได้ถูกทดสอบอีกครั้งจากข่าวที่ว่าเขาต้องการย้ายทีมครั้งล่าสุด
ท่ามกลางความคิดเห็น และการประเมินสถานการณ์อย่างมากมาย นี่จึงถือเป็นเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ครั้งแรกของมอยส์เลยทีเดียว หากเขาตัดสินใจให้รูนี่ย์เริ่มต้นใหม่ มันจะทำให้ผู้จัดการทีมคนใหม่สูญเสียความเชื่อมั่นจากกลุ่มแฟนบอลหรือเปล่า หรือการขายรูนี่ย์ออกไปจะเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่บอกไปถึงทุกๆ คนว่าไม่มีใครยิ่งใหญ่เกินกว่าสโมสร
ตรงนี้มอยส์ได้แสดงให้เห็นแล้ว จากการที่เขาเลือกใช้ทีมงานของเขา พร้อมกับตัด ไมค์ ฟีแลน และ เอริค สตีล ทีมสต๊าฟฟ์ที่เซอร์ อเล็กซ์ ไว้วางใจพ้นทีม เขาได้แสดงออกถึงสภาพจิตใจที่แน่วแน่ในการเข้ามารับงานกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งจะต้องมีการตัดสินใจครั้งใหญ่ประดังเข้ามาอีกนับไม่ถ้วน
การตัดสินใจเรื่องของรูนี่ย์นั้นถือเป็นเรื่องแรกจากอีกหลายเรื่องในอนาคตที่เขาจะต้องพบเจอ เพียงแต่ว่าครั้งนี้มันอาจจะเป็นครั้งที่สำคัญที่สุดก็เป็นได้
SiR KeaNo
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC